เว็บไซต์สร้างความน่าเชื่อถือ ทำให้คุณเป็นที่รู้จักของผู้คน และความเป็นมืออาชีพของคุณ การทำธุรกิจบนบนโซเชียลมีเดีย หรือช่องทางอื่น ๆ ในโลกที่ Social Media เฟื่องฟู หรือการเอาของไปขายตาม Ecommerce Platform นั้นสามารถทำได้ง่ายดาย ผู้คนหรือบริษัทต่างๆ เริ่มให้ความสำคัญกับการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองน้อยลง หลายๆ คน หลายๆ บริษัท... คิดว่า Platform ไหนก็ได้ ขอแค่ให้มี Reach เยอะๆ ขายของได้มากๆ ก็เพียงพอแล้ว คงไม่ดีแน่ถ้าธุรกิจของเรา จะมีเพียง Facebook, ไลน์ หรือโซเชียลอื่นๆ เพื่อแสดงการมีตัวตน และสร้างความน่าเชื่อถือ แต่กลับไม่มีเว็บไซต์ ลูกค้าคงเกิดความไม่เชื่อมั่นแน่นอน

เว็บไซต์ทำให้ลูกค้า "ค้นหา" คุณเจอบนโลกออนไลน์ ช่วยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายดึงผู้ที่สนใจสินค้า หรือบริการของเราจริงๆ ทำให้มีโอกาสมีลูกค้ามากขึ้น การที่คุณมีเว็บไซต์จะทำให้คุณเข้าถึง Google ซึ่ง Traffic ที่มาจาก Google นั้น เมื่อเทียบกับ Traffic ช่องทางอื่นๆ แล้ว จัดเป็น Traffic ชั้นดี การที่ลูกค้าเข้ามาเจอคุณผ่านการ "ค้นหา" นั้น มันเป็นช่องทางที่ทรงพลังที่สุดช่องทางหนึ่ง ลองคิดดูว่าคนใช้ Google กันเพื่ออะไร? คนใช้ Google เพื่อค้นหาในสิ่งที่ต้องการ มันเป็นตัวบ่งบอกว่า เขามีความต้องการจริงๆ และเว็บไซต์ของคุณน่าดึงดูดเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของเขาได้ ดังนั้น เว็บไซต์ที่มี ลำดับที่ดีใน google search engine จึงมีชัยไปกว่าครึ่ง และเว็บไซต์นั้นสามารถทำให้อันดับใน google search engine ได้ดีกว่าโซเชียลแน่นอน

ถ้าเทียบเว็บไซต์ กับช่องทางออฟไลน์แล้ว ผมมองว่า... ถ้าคุณสามารถทำให้ลูกค้าเจาะจงไปหาคุณได้ในช่องทางออฟไลน์ มันจะยอดเยี่ยมกว่าการค้นเจอคุณบนโลกออนไลน์อีก แต่การจะทำให้เป็นแบบนั้นได้ ผมคิดว่าคุณต้องจ่ายเงินมากกว่าการสร้างเว็บไซต์อีกเยอะมากๆ ครับ ถ้าเทียบเว็บไซต์ กับโซเชียลมีเดีย หลายๆ คนอาจจะแย้งว่า คนก็ค้นหาข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียเหมือนกัน!!!... ก็จริงครับ แต่ผมมองว่าระดับการค้นหาบนโซเชียลมีเดีย เมื่อเทียบกับเว็บไซต์แล้วมันต่างกันมาก เพราะคนไม่ได้เล่นโซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาข้อมูล จุดประสงค์หลักในการเล่นโซเชียลมีเดียของคนทั่วไปคือเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ มากกว่า

เว็บไซต์เปรียบเสมือนกับการมีบ้าน มีสำนักงาน (ไม่มีที่ใดสุขใจเท่าบ้านเรา) คุณจะสามารถตกแต่งได้ตามที่คุณอยากให้มันเป็น สามารถตกแต่ง ย้ายของโน่นนี่ หรือระบายสียังไงก็ได้ตามที่คุณอยากให้มันเป็น คุณจะใส่ข้อมูลอะไรไว้ใน "หน้าแรก" ของคุณก็ตามแต่ใจ คุณจะแบ่งหมวดหมู่ "บล็อก" ของคุณเป็นกี่แบบก็ได้ไม่จำกัด หรือคุณจะเลือกเก็บเงินบน "ร้านค้า" ของคุณด้วยวิธีไหนก็ได้ ในระยะยาวแล้ว ไม่มีที่ไหนทำให้คุณสุขใจได้กับบ้านอันแสนอบอุ่นของคุณ

เว็บไซต์ช่วยลดต้นทุน ในเรื่องพนักงาน ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายสำนักงาน ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมันรถ ฯลฯ

เว็บไซต์ช่วยเพิ่มเวลา ทำให้เรามีเวลามากขึ้น

เว็บไซต์ช่วยเพิ่มกลุ่มเป้าหมาย การเชื่อมต่อเชื่อมโยงกับโซเชียลมีเดีย และแพลตฟอร์มอื่นๆ ทำให้มีโอกาสมีลูกค้ามากขึ้น เพิ่มช่องทางการขาย การขยายงาน เพิ่มโอกาสปิดการขายได้ง่ายขึ้น การมีเว็บไซต์นั้นจะทำให้คุณเชื่อมต่อกับแพล็ตฟอร์มอื่นๆ ได้เป็นหมื่นๆ แพล็ตฟอร์ม เป็นการผสมผสานที่ดี และยั่งยืนในระยะยาว เป็นสินทรัพย์บนโลกดิจิทัล ซึ่งถ้าคุณสามารถสร้างการเชื่อมต่อได้เชี่ยวชาญแล้ว ในบางขั้นตอน คุณสามารถที่จะทำระบบของคุณให้เป็นระบบอัตโนมัติ (Automate) ได้ เพิ่มเวลาของเรา ทำให้เรามีเวลามากขึ้น

เว็บไซต์ถูกสร้างให้ตรงความต้องการในการนำเสนอธุรกิจ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้นเราจะสร้างเว็บให้ตรงความต้องการของเราอย่างไรก็ได้ สร้างเนื้อหาให้ดีเยี่ยมขนาดไหนก็ได้ขึ้นอยู่กับเรา อีกทั้งยังจัดหมวดหมู่ได้ตามความต้องการ เพื่อความเป็นระเบียบ และการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และง่ายต่อลูกค้าที่เข้ามาใช้เว็บของเรา จุดไหนเน้นให้เด่น จุดไหนที่เราต้องการให้ลูกค้าทำความเข้าใจ เว็บไซต์สามารถทำได้ง่ายกว่า โซเชียลมีเดียต่างๆ อย่างแน่นอน

เว็บถูกสร้างมาเพื่อจำหน่ายสินค้า เป็นอีคอมเมิร์ซโดยตรง ทำธุรกิจเสมือน ร้านค้าออนไลน์ เพิ่มช่องทางการขาย การขยายงาน และถูกพัฒนามากมากกว่า 10 ปี มีฟังก์ชั่นที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ยกตัวอย่างง่ายๆ หากต้องการจำหน่ายเสื้อยืด เราสามารถตั้งหมวดหมู่สินค้าได้ สามารถเลือกไซต์ เลือกสีได้  หรือ คิดค่าจัดส่งตามโซนที่รับ หรือ คิดค่าจัดส่งตามเงื่อนไขต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย เหล่านี้โซเชียลไม่สามารถทำได้แน่นอน

เว็บไซต์นั้นเป็นสิ่งที่เกิดมา 20 - 30 ปีแล้ว ด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ใครก็ตามที่ยังคงอยู่แต่บนโลกออฟไลน์ จะมีความยากลำบากในการทำธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเจอสิ่งที่ดีกว่า เร็วกว่า เจ๋งกว่า มาแข่งขันด้วย

สำหรับการทำธุรกิจบนโซเชียลมีเดีย ผมเองนั้นมีความเชื่อที่ว่า ถึงที่สุดแล้วต้องมีการเปลี่ยนพลิก ช่วง 3-5 ปี ที่ผ่านมานี้เป็นยุคสมัยแห่งโซเชียลมีเดียอย่างแท้จริง แต่ช่องทางบนโลกโซเชียลมีเดียนั้นจะมีคนเข้ามาทำธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ และโมเดลธุรกิจแบบ Advertising นั้นมีข้อจำกัดด้านปริมาณในการนำเสนออยู่ (โซเชียลมีเดียไม่อาจจะปล่อยให้มีโฆษณามากเกินไป เพราะถ้ามากเกินไป คนก็จะไม่อยากใช้งานนั่นเอง) และเมื่อไหร่ก็ตามที่ Demand มากกว่า Supply มากๆ ราคามันก็จะแพงขึ้นเรื่อยๆ และคนก็จะเริ่มหาทางเลือกอื่น เช่นเดียวกับการไปฝากขายในแพลตฟอร์มใหญ่ๆ ที่คุณต้องทำตามกฏระเบียบที่ทางแพลตฟอร์มกำหนดขึ้นมา